ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี - ข้อแนะนำในการเดินทางเข้าประเทศไทยสำหรับคู่สมรสชาวต่างชาติของผู้ถือสัญชาติไทย และบุตรซึ่งมิได้ถือสัญชาติไทยของผู้ถือสัญชาติไทย

ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี - ข้อแนะนำในการเดินทางเข้าประเทศไทยสำหรับคู่สมรสชาวต่างชาติของผู้ถือสัญชาติไทย และบุตรซึ่งมิได้ถือสัญชาติไทยของผู้ถือสัญชาติไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 28 มิ.ย. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 504 view

คู่สมรสชาวต่างชาติของผู้ถือสัญชาติไทย และบุตรซึ่งมิได้ถือสัญชาติไทยของผู้ถือสัญชาติไทย สามารถยื่นขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศไทย โดยดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้


๑. ผู้ร้องประสานสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี หรือสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ล่วงหน้าอย่างน้อย ๑๕ วันทำการก่อนวันเดินทางเพื่อยื่นคำร้องขอเดินทางเข้าประเทศไทย โดยต้องส่งเอกสารให้สถานเอกอัครราชทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ฯ ดังนี้

(๑) แบบฟอร์ม Declaration Form ที่ลงนามยินยอมกักตัว ๑๔ วัน โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และปฏิบัติตามกฎระเบียบของไทย
(๒) สำเนาหนังสือเดินทางของคู่สมรสชาวไทย (กรณีคู่สมรส) /สำเนาหนังสือเดินทางของบิดา หรือมารดาที่ถือสัญชาติไทย (กรณีบุตร)
(๓) สำเนาหนังสือเดินทางของคู่สมรสชาวต่างชาติ (กรณีคู่สมรส)/สำเนาหนังสือเดินทางของบุตรที่มิได้ถือสัญชาติไทย (กรณีบุตร)
(๔) สำเนาใบสำคัญการสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือหลักฐานอื่นใดที่ยืนยันสถานะดังกล่าว/สำเนาสูติบัตรหรือหลักฐานอื่นใดที่แสดงความสัมพันธ์กับบิดาหรือมารดาที่มีสัญชาติไทย
(๕) กรมธรรม์ประกันสุขภาพในวงเงินไม่ต่ำกว่า ๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ๓ ล้านบาท) ซึ่งครอบคลุมการรักษาพยาบาลที่ประเทศไทยในกรณีที่ติดเชื้อโควิด

๒. สถานเอกอัครราชทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ฯ จะส่งคำร้องพร้อมเอกสารให้หน่วยงานส่วนกลางที่ไทยพิจารณา ซึ่งการพิจารณาอนุมัติการเดินทางเข้าประเทศไทยนั้นจะเป็นการพิจารณาเป็นรายกรณีโดยยึดความเร่งด่วนฉุกเฉิน และเหตุผลด้านมนุษยธรรมเป็นหลัก

๓. เมื่อได้รับการอนุมัติให้สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ สถานเอกอัครราชทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ฯ จะออกหนังรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย และตรวจลงตราให้แก่ผู้ร้อง (ในกรณีที่ยังไม่ได้รับการตรวจลงตรา) โดยผู้ร้องจะต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมแก่สถานเอกอัครราชทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ฯ ดังนี้

(๑) บัตรโดยสารเครื่องบิน
(๒) ใบรับรองแพทย์ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง  (Fit to Fly) ซึ่งอายุไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมงก่อนเวลาเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบิน
(๓) ใบรับรองแพทย์ระบุว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอายุไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมงก่อนเวลาเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบิน
(๔) หลักฐานยืนยันการสำรองที่พักในการกักตัว ๑๔ วัน เมื่อเดินทางถึงไทย (Alternative State Quarantine - ASQ) ซึ่งผู้ร้องจำเป็นต้องประสานทางโรงแรมโดยตรงเพื่อสำรองห้องพัก และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยตนเอง ทั้งนี้ สามารถดูรายชื่อโรงแรมและรายละเอียดเกี่ยวกับ ASQ ได้ทางเว็บไซต์ http://hsscovid.com/

๔. ผู้ร้องจะต้องแสดงเอกสารดังต่อไปนี้ที่เคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน

(๑) หนังสือรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทยที่ออกโดยสถานเอกอัครราชทูตฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ฯ
(๒) แบบฟอร์ม Declaration Form ที่ลงนามยินยอมกักตัว ๑๔ วัน โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง และปฏิบัติตามกฎระเบียบของไทย
(๓) ใบรับรองแพทย์ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง  (Fit to Fly) ซึ่งอายุไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมง ก่อนเวลาเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบิน
(๔) ใบรับรองแพทย์ระบุว่าไม่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอายุไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมงก่อนเวลาเช็คอินที่เคาน์เตอร์สายการบิน
(๕) กรมธรรม์ประกันสุขภาพในวงเงินไม่ต่ำกว่า ๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ ๓ ล้านบาท) ซึ่งครอบคลุมการรักษาพยาบาลที่ประเทศไทยในกรณีที่ติดเชื้อโควิด

๕. เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ขอให้ผู้ร้องกรอกรายละเอียดตามแบบฟอร์ม ต.๘ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก https://thaiembdc.org/wp-content/uploads/2020/03/T8_form.pdf  หรือลงทะเบียนออนไลน์ผ่านทางแอพลลิเคชั่นของ AOT https://aot-app.kdlab.ai/. ทั้งนี้ ผู้ร้องต้องเข้ากักตัว ๑๔ วัน ยังที่พัก ASQ ตามที่ได้สำรองห้องไว้ และต้องปฏิบัติตามกฎและระเบียบต่าง ๆ ของไทยที่เกี่ยวข้อง


หากท่านมีข้อสอบถามประการใด กรุณาติดต่อสอบถามได้ตามช่องทาง ดังนี้
- สถานเอกอัครราชทูตฯ Facebook : thaiembassy.abudhabi หมายเลขโทรศัพท์ : ๐๕๖-๑๑๒ -๑๓๔๘
- สถานกงสุลใหญ่ฯ  Facebook : RTCGDXB หมายเลขโทรศัพท์ : ๐๕๐-๖๕๒-๕๙๔๕

 

เอกสารประกอบ

news-20200628-002841-056200.pdf